รักจริงดอตคอม

โครงการปลูกป่า และปลูกต้นกล้าถวายพ่อหลวง และแนวทางการปลูกป่าแบบBen2at

 แนวทางการปลูกป่าของBen2at    

ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจก่อนนะครับว่า    

           ต้นไม้คือแหล่งซับคาร์บอนเพื่อมาใช้ในการกระบวนการสันดาปของต้นไม้ ซึ่งต่อมาก็จะได้ ก๊าซอ๊อกซิเจ่น ที่จำเป็นต่อ มนุษย์สัตว์ แมลงและเหล่าหนอน จุลชีวันต่างๆ โดยในกลางคืนพืชจะปล่อยคาร์บอนออกมา  ส่วนกลางวันพืชจะปล่อยอ๊อกซิเจน เมื่อพืชปล่อยคาร์บอนในตอนกลางวันแล้ว ในตอนเช้า แสงแดดแผดเผาน้ำกลายเป็นไอน้ำ รวมกับก๊าซคาร์บอนจากพืชที่ีคลายในตอนกลางคืน ก็จะทำให้กลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ซึ่งต่อมาก็กลายเป็นเมฆฝนนั่นเอง แล้วเมื่อน้ำฝนตกลงมาลงสู่ชั้นดิน ก็จะไปเป็นชั้นน้ำบาดาล เพราะใต้ดินจะมีชั้นดิน ชั้นดินร่วน ชั้นทรายและชั้นหิน  ทำให้มีส่วนระหว่างชั้นหินกับชั้นดินดาลเป็นที่กักเก็บน้ำ หรือที่เรียกว่า น้ำบาดาล   รากพืช เมื่อหยั่งลึกลงไปถึงชั้นน้ำบาดาล ก็จะทำให้น้ำในชั้นบาดาลสามารถไหลซึมทะลุผ่านขึ้นมาถึงชั้นผิวดินชั้นบนได้  จึงเกิด ห้วย หนอง คลองบึง เกิด ตาน้ำ เป็นน้ำตก เป็นทะเลสาบ  การปลูกพืชโดยการฝังขยะอาหาร มูลสัตว์ ลงไปชั้นใต้ดินลึกๆ ประมาณ 6-12 เมตร ก็จะทำให้ พืชพัฒนารากให้ยาวลึกลงไปชั้นใต้ดินจนถึงชั้นน้ำบาดาลได้  จึงทำให้ รากไม้ช่วยรักษาน้ำและดิน  ทั้งยังเป็นสิ่งบ่งชี้ให้เห็นว่าที่ใดมีต้นไม้ใหญ่ สูงตะหง่าน ที่นั่นย่อมมีแหล่งน้ำบาดาลอยู่อย่างแน่นอน    ดังนั้น การปลูกป่าของBen2at  จึงเน้นการทำให้รากของพืชมีระดับรากลึกยาวแผ่ขยายกว้างไกล เหมือนสายเคเบิ้ลที่สะพานแขวน และมีรากลึกลงไปถึงชั้นน้ำบาดาล                                                                                                                                                                                                            

ู่

 แนวทางการปลูกป่าของBen2at

             ไม้ทนแล้ง และไม้ที่ไม่ผลัดใบ หรือมีการผลิใบใหม่ๆออกมาอยู่เสมอทั้งปี   เป็นสิ่งที่ช่ีวยในการฟื้นฟูป่า และป้องกัน ความแห้งแล้ง อันเกิดจาก หย่อมความกดอากาศสูง ที่เมื่อมีหย่อมความกดอากาศต่ำอยู่มากพอสมควร ก็จะเป็นอากาศเย็นฉ่ำ ที่มีฝนตกเล็กน้อย หรือมีน้ำค้างแข็ง มีหิมะ บ้าง 

            แต่หากมีแต่หย่อมความกดอากาศสูงมากเกินไป ก็จะเกิดความแห้งแล้ัง  ดังนั้น เราจึงต้องปลุกไม้ทนแล้ง อย่างเช่น  มะขามป้อม พุทธราจีน  หมากเม่า บุก มะขามเทศ กระท้อน  พืชตะกูลมัน ปอ ป่าน ตะขบ หญ้าแฝก  ปาล์ม ตาล  อินทผาลัม เบาบับ  พวกพืชที่เป็นวัชพืชต่างๆ  หญ้าพง หญ้าคา ไมยราบ  ไผ่  วิทกลาส  มะม่วงหิมพานต์ ซีบัคธอร์น กระบองเพชร ว่านหาจระเข้ แก้วมังกร ฯลฯ  

       ซึ่งเมื่อเราปลูกไม้ทนแล้วเหล่านี้แล้วนะครับ รับรองว่า ไม่นานจะเกิดแหล่งน้ำบาดาลขึ้นมาในเร็ววัน  แต่เมื่อราไม้จำพวก ไทรผล  มะม่วงสามฤดู กล้วย ละมุด  โพธิ์ และพืชตระกูลยางต่างๆ รับรองว่าไม่นานจะเกิดป่าที่อุดมสมบูรณ์ และมีความเย็นสบายเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

การปลูกพืชเสริมในแปลงปลูกมันสำปะหลังแบบBen2at

   ก่อนอื่นเลยนะครับ ต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนนะครับ ว่ามันสำปะหลัง หรือพืชตระกูลมันคือพืชตระกูลราก  ดังนั้นการที่รากจะใหญ่ ยาว มีแป้งเยอะได้นั้น จึงต้องมีการดูดซึมแร่ธาตุสารอาหารต่างๆไว้ที่รากเป็นจำนวนมาก และถ้ารากของมันหรือรากของมันไปชนกับรากของพืชตระกูลอื่น   รากก็จะหยุดการเจริญเติบโต  แต่ถ้ารากของมันหากินในแนวลึกมากเท่าไร หรือหากินตามแนวนอนได้ไกลมากเท่าไร รากก็จะยาวได้มากเช่นกัน  ดังนั้นทางที่ดีควรปลูกมันโดยให้ห่างกันต้นละ1เมตร  โดยปลูกแบบแปลงผักนะครับ ให้รากของมันได้มีพื้นที่งอกยาวในแนวนอนได้ทั้ง8ทิศ โดยการใช้อาหารล่อ ในระยะ1-1.5 เมตร และในแนวตั้ง คือลึกลงไปใต้ดิน ต้องมีอาหารล่อรากมันให้ลึกลงไป 4 ทาง ความลึก2 -3เมตร   รับรองว่าคุณจะได้มันที่รากทั้งใหญ่ ทั้งยาว และมีระบบรากที่เป็นประโยชน์ต่อน้ำในชั้นบาดาลด้วย เพราะจะทำให้น้ำบาดาลไหลซึมผ่านขึ้นมาสู่ผิวดินชั้นบนได้ง่าย  ซึ่งเป็นการปลูกมันแบบช่วยอนุรักษ์น้ำ แต่ถ้าจะอนุรักษ์ดินได้นั้น ต้องใช้ขยะอาหารที่มากพอ ฝังลงไปในดินรอบพื้นที่ของต้นไม้ โดยเราอาจจะนำขยะอาหารจากแหล่งชุมชน หรือตลาดสด มาใช้เป็นแหล่งอาหารให้ต้นมัน เพื่อใช้เป็นไม้ช่วยอนุรักษ์ดินและน้ำ   รวมทั้งช่วยฟื้นฟูป่าอย่างเร็วได้ด้วย    

    ทีนี้พืชที่ควรจะปลูกแซม แปลงปลูกมันนั้น  คืออะไรบ้าง

พืชคลุมดินระหว่างแปลงแบบยกร่อง เมตรคูณเมตร ควรจะเป็น

พืชตระกูล แตงโม แตงไทย ฟักทอง  ผักชีฝรั่ง  สับปะรด  แก้วมังกร  ว่านหางจระเข้    

พืชที่ควรปลูกแซมอย่างมากรอบพื้นที่ปลูกมัน ก็คือ ไผ่  มะม่วงหิมพานต์  หมากเม่า กระท้อน ไข่เน่า ตะขบ กล้วย เผือก   กล้วย  มะลุม  มะขามเปรี้ยว  พุทธา มะขามป้อม หญ้าแฝก หญ้าหางม้า  มะพร้าว อินทผาลัม

เพราะเป็นพืชทนแล้ง  และมีระบบรากลึก ทั้งยังให้ใบที่เป็นประโยชน์ต่อรากมันได้ด้วย   จะทำให้มีพวกไส้เดือน มาก และแมลงอื่นๆ ที่จะช่วยนำสารอาหารไปอยู่ในใต้ดินให้แก่รากของมันด้วยนะครับ แต่ควรปลูกห่างจากต้นมันประมาณ3 คูณ3เมตรนะครับ